เจ้าสาวผมไม่ใช่ผี[หมอก้อง/ฝน]

เนื้อเรื่องย่อ

ทศ นักเขียนการ์ตูนแนวผีสยองขวัญ ถูกเชิญให้มาร่วมท้าพิสูจน์ในรายการ "กล้าพิสูจน์" พร้อมกับกลุ่มพิธีกรคือสำลี (นักจัดรายการวิทยุผี ๆ) , เชอรี่ นักแสดงชื่อดังที่ข่าวว่ามีซิกก์เซนท์สัมผัสที่ 6 , จอห์นนี่ นักแสดงตลกที่มีความกล้าบ้าบิ่นชอบท้าพิสูจน์) และแขกรับเชิญคนอื่น ๆ แม้จะกลัวผีโคตร ๆ แต่ด้วยอาชีพที่ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องผี ๆ ทำให้ทศตกลงใจที่จะไปร่วม "กล้าพิสูจน์" กับทีมงาน ที่บ้านร้างแห่งหนึ่งซึ่งถูกเลือกมาถ่ายทำรายการในครั้งนี้ มีประวัติอันน่ากลัวสยองขวัญว่าผู้หญิงท้องแก่คนหนึ่งถูกฆ่าตายอย่างทารุณ วิญญาณของเธอยังไม่ไปไหน แต่กลับมาปรากฏตัวให้ชาวบ้านแถบนั้นได้เห็นไม่ว่าในรูปของกลิ่นสาบสาง เสียงร้องไห้คร่ำครวญ หรือการมาปรากฏตัว เมื่อมีข้อมูลเช่นนี้ทีมงานกล้าพิสูจน์จึงได้เตรียมพร้อมทุกอย่างเพื่อทำการท้าพิสูจน์ ทั้งกล้องรังสีไวโอเลตความถี่สูงที่สามารถบันทึกภาพภูติผีวิญญาณ และอุปกรณ์จับผีซึ่งหากผีมาปรากฏตัวแม้ในรูปของวิญญาณ คลื่นความถี่ก็จะประมวลผลออกมาเป็นรูปภาพได้ ก่อนเริ่มรายการทุกคนได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงความเฮี้ยนของผีสาว ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงความเฮี้ยนน่ากลัว ทั้งกลิ่นสาปสาง เสียงร้องไห้คร่ำครวญ การมาปรากฏตัวให้เห็น นัยว่าวิญญาณผีสาวกำลังรอคอยการแก้แค้นคนที่ฆ่าเธอ เมื่อได้ยินกิตติศัพท์ความเฮี้ยนของผีสาว ตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้าบ้านทศก็กลัวจนขนหัวแทบลุกขึ้นตั้ง ครั้นจะถอนตัวทีมงานก็ไม่ให้ถอน ทศจึงต้องกัดฟันทำเป็นใจดีสู้ผีต่อไป ถึงเวลาถ่ายทำทีมงานได้บุกเข้าไปในบ้าน ตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าบ้านทุกคนก็ได้กลิ่นสาปสางเห็นรอยแห้งเกรอะกรังของคราบเลือด สภาพของบ้านที่ชวนสยดสยอง ซึ่งจู่ ๆ ก็มีเสียงคนลากฝีเท้าขึ้นมาในบ้านรวมทั้งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ การมาปรากฏตัวให้เห็น (ชายเสื้อแว่บ ๆ การคิดไปเองของทีมงาน) แค่นั้นทุกคนก็เผ่นแน่บรวมทั้งทศ (ยกเว้นตากล้องที่ต้องวิ่งไปถ่ายไป) แต่โชคไม่ดีที่ทศดันทำไฟฉายตกแตกจนวิ่งไปชนชั้นวางของที่มีรูปปั้นเซรามิคตุ๊กตาผู้หญิงวางอยู่จนแตกกระจาย ตอนนั้นทศไม่สนใจอะไรคิดเพียงอย่างเดียวที่จะวิ่งหนีผีให้สุดชีวิต ที่สุดทศก็ออกจากบ้านมาอยู่รวมกับทีมงานกล้าพิสูจน์ พิธีกรขอให้เพลย์เทปดูเพื่อพิสูจน์ถึงสิ่งที่เร้นลับแต่ภาพก็ไม่สามารถบันทึกอะไรไว้เลยนอกจากภาพที่ทศวิ่งชนชั้นจนตุ๊กตาเซรามิคหล่นลงมาแตก จากภาพที่จับได้ ในตุ๊กตาเซรามิคเหมือนจะมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เชอรี่บอกว่าจากสัมผัสที่หกมันน่าจะเป็นของที่สามารถสื่อถึงวิญญาณ ทีมงานทุกคนจึงลงมติให้ทศเป็นคนเข้าไปเอา เพราะเหมือนเป็นความจงใจของเจ้าของบ้านที่อาจจะให้ทศเป็นคนมาเจอ ขัดไม่ได้ ทศจำต้องกลับเข้าไปเอาแต่คราวนี้ทศขอให้ทีมงานเข้าไปด้วย เมื่อเข้าไปในบ้าน ทศก็เห็นว่าในตุ๊กตาเซรามิค มีล๊อคเก็ตชิ้นหนึ่งซ่อนอยู่ เมื่อทศเอามาให้ทีมงานดูก็เห็นเป็นภาพของชายหญิงคู่หนึ่ง ผู้หญิงลงลายมือชื่อว่าฟ้า ซึ่งชาวบ้านต่างยืนยันว่าเป็นภาพของผู้หญิงที่เคยอยู่ที่หลังบ้านนี้อย่างแน่นอน และผู้ชายที่อยู่ในภาพก็คงเป็นสามีของผีสาว ผลปรากฏว่าแม้รายการจะไม่สามารถบันทึกภาพผีสาวได้ แต่ก็ตีข่าวไปไกลถึงความเฮี้ยนของผีสาวที่คงอยากมาปรากฏกายให้ทีมงานเห็น ทศถูกมอบหน้าที่ให้เอาล็อคเก็ตไปถวายที่วัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คนในรูปคืนนั้นเมื่อถึงห้องพักทศนอนไม่หลับเพราะกลัวจัด แถมไฟยังเกิดดับระหว่างที่ทศคลำสะเปะสะปะไปหยิบเทียนก็ปรากฏว่ามือของทศปัดล๊อคเก็ตจนหล่นลงกับพื้นโดยที่ไม่รู้ตัว รุ่งเช้าทศพยายามหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ทศจึงคิดตามประสาคนกลัวผีว่าผีฟ้าคงอยากได้ล็อคเก็ตคืน ทศไปทำบุญที่วัดอุทิศส่วนกุศลให้คนในรูปและอธิษฐานว่าขออย่าได้มาเจอกันอีกไม่ว่าหลับหรือตื่น ฝน แฝดผู้น้องของฟ้า ออกจากบ้านเข้ากรุงเทพฯ เพื่อตามหาพี่สาวที่หายสาปสูญไปหลังจากที่หนีตามจ่ามารุต เพราะพ่อคือกำนันเก่ง ไม่ชอบจ่ามารุต ที่ยากจน ไม่มีใครรู้ว่าคนทั้งคู่หายไปไหน เวลาผ่านไปนานหลายปีกำนันเก่งก็ไม่ใจอ่อนเสียที ฝนจึงขอแม่แก้วตามหาพี่สาว แม่แก้วตกลง ฝนจึงแอบหนีพ่อเข้ากรุงเทพฯ พร้อมทั้งบอกให้ แจ๋น เพื่อนสนิท ช่วยหาห้องเช่าห้องใหม่ให้เพราะจะอยู่กับแจ๋นก็ไม่สะดวกเพราะแจ๋นพักอยู่แจ๊คกับน้องชาย ตกดึกที่ป้ายรถเมล์คืนหนึ่ง ทศเจอหน้าฝนก็เผ่นแน่บ ตะโกนว่าผีหลอก เพราะนึกว่าเป็นผีฟ้า ฝนเองก็แปลกใจ ไม่รู้ว่าทำไมทศต้องกลัวตัวเองขนาดนั้น ซ้ำร้ายไปกว่านั้นระหว่างที่ทศหลบไปอยู่ในห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันพอออกมายืนอยู่ที่หน้ากระจกก็เห็นผีฟ้ายืนอยู่ ทศแหกปากร้องลั่น หาว่าผีฟ้าตามมาหลอกหลอนไม่สิ้นสุด คราวนี้ฝนฉุกคิดเรื่องของผีฟ้าจนต้องวิ่งตามทศ ทั้งสองต้องพัลวันพัลเกเพราะความเข้าใจผิด คนหนึ่งหนีคนหนึ่งตาม ที่สุดทั้งสองก็เจอกันและทศก็รู้ว่าฝนไม่ใช่ผี ฝนถามสาเหตุว่าทำไมทศต้องกลัวตัวเองด้วย ทศบอกเพราะฝนหน้าเหมือนผีสาวที่บ้านร้างมาก ฝนใจหายวูบ เป็นห่วงฟ้าอย่างหนักจึงขอให้ทศช่วยพาไปที่บ้านร้าง ทศปฏิเสธไม่ยอมทำท่าจะหนีท่าเดียว ฝนไม่ให้ไปเพราะทศต้องรับผิดชอบเพราะในขณะที่พัลวันพัลเกกันอยู่ ทศได้ทำที่อยู่ของแจ๋นและที่อยู่ของฝนหายไป ทศบอกว่าจะช่วยหาที่อยู่ใหม่ให้ ฝนบอกว่าเงินมีไม่พอ ถ้าให้หาที่อยู่ใหม่ทศก็ต้องจ่ายเงินค่าเช่าให้ ทศบอกไม่มีเพราะทศก็จนกรอบเหมือนกัน ที่สุดฝนก็บังคับให้ทศนั่งเฝ้าฝนที่ป้ายรถเมล์จนกว่าจะเช้า ทศไม่ยอมเพราะอยากจะกลับไปนอนเต็มแก่อีกทั้งยังมีงานค้างอยู่ ฝนก็ไม่ยอม ทศจึงบอกงั้นฝนก็ไปนอนที่ห้องทศแล้วกัน ฝนไม่ไปเพราะกลัวทศจะทำมิดีมิร้าย ทศบอกผู้ชายอย่างทศเป็นสุภาพบุรุษพอ ฝนจึงตกลงไปแต่มีข้อแม้ว่าทศต้องให้ฝนจับมัดมือมัดเท้าเพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของฝน ด้วยความที่ง่วงเต็มแก่และการที่ฝนเน้นว่าหากเป็นสุภาพบุรุษพอ ทศจำต้องตกลง ตกลงคืนนั้นฝนไปค้างอยู่ที่ห้องของทศ ท่ามกลางความกังวลใจเมื่อคิดถึงเรื่องของฟ้า รุ่งเช้า ฝนขอร้องทศใหม่ให้ช่วยพาไปที่บ้านร้าง ทศไม่ยอมบอกยังเสียวสันหลังไม่หาย ฝนทั้งอ้อนวอนทั้งขอร้องทศก็ไม่ยอม ฝนจึงต้องขอแลกด้วยการยอมเป็นแม่บ้านทำความสะอาด ซักเสื้อผ้าให้ แถมยอมเป็นเบ๊ให้ใช้หนึ่งเดือนโดยไม่คิดเงินเดือน ทศจึงยอมตกลง แต่มีข้อแม้ว่าฝนต้องอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวที่สุดห้ามออกไปเพ่นพ่านที่ไหนเพราะทศยังเป็นหนุ่มโสด ไม่ควรจะมีข่าวว่ามีเมียโดยไม่ได้รับเชิญ ฝนทั้งหมั่นไส้ทั้งโมโหทศ แจ๋นเป็นห่วงฝน เมื่อมาหาฝนที่ห้องพักแล้วไม่เจอ และยิ่งห่วงหนักเมื่อเจ้าของที่พักบอกว่ายกห้องให้คนอื่นเช่าต่อไปแล้วเพราะไม่มีใครเข้ามาอยู่ แจ๋นพยายามโทรศัพท์ติดต่อจนได้เจอกับฝน แจ๋นบอกจะพาฝนไปอยู่ด้วยเป็นการชั่วคราว แต่ทศไม่ยอมอ้างว่ายังไม่ครบหนึ่งเดือนตามที่ฝนสัญญาว่าจะเป็นเบ๊ ฝนจึงจำใจอยู่กับทศ เพื่อให้ทศพาไปที่บ้านร้าง ที่บ้านร้าง จากสภาพความทรุดโทรม ข้าวของที่ถูกรื้อกระจัดกระจาย ตลอดจนคราบเลือดที่เลอะติดผนังห้อง ทำให้ฝนใจไม่ดี ฝนให้ทศไปขุดใต้ต้นไม้ทุกต้นในบ้าน เพื่อหาไหเก็บความลับ ทศบอกว่าฝนเพ้อเจ้อ ฝนบอกไม่ได้เพ้อเจ้อเพราะตอนเด็ก ๆ เวลามีความลับอะไรฟ้ากับฝน มักจะเขียนเป็นบันทึกและเก็บไว้ในไหฝังไว้ใต้ต้นไม้ เมื่อฝนยืนยันอย่างนี้ทศจำต้องทำตาม และก็เป็นดังที่ฝนคาด ใต้ต้นพิกุลทศพบไหใบหนึ่งฝังอยู่ เมื่อเปิดออกมาดูก็พบบันทึกที่ฟ้าเขียนถึงความกังวล ความห่วงใยที่มีต่อจ่ามารุตที่ต้องทำคดีใหญ่เพื่อจะล้มล้างนักค้ายาเสพติด ในบันทึกยังบอกต่อว่าฟ้ากับจ่ามารุตถูกขู่ฆ่าหลายครั้งจากผู้ไม่หวังดี ซึ่งฟ้าก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร เมื่ออ่านบันทึก ฝนก็รู้ทันทีว่าฟ้าต้องประสบเคราะห์กรรมบางอย่าง ขณะเดียวกัน เมื่อชาวบ้านได้เห็นหน้าฝนก็ยิ่งแตกตื่นตกใจ เพราะเหมือนผีสาววิญญาณเฮี้ยนจริง ๆ ไม่มีใครรู้ว่าฝนคือฝาแฝดของฟ้า ฝนขอร้องไม่ให้ทศบอกเรื่องของฝนให้ใครรู้ ฝนจะสวมรอยเป็นผีฟ้าเพื่อค้นหาความจริงทั้งหมด โดยขอให้ทศช่วยร่วมมือด้วย ทศปฏิเสธบอกไม่ถูกกันกับผี ทศคงทำใจไม่ได้หากต้องเผชิญหน้ากับผีทุกวี่ทุกวัน ฝนแย้งว่าถ้ากลัวผีทำไมทศถึงอยู่ในทีมกล้าพิสูจน์ได้ ทศบอกว่าเพราะไม่เคยเจอของจริง ทศปฏิเสธฝนโดยสิ้นเชิง แต่บังเอิญระหว่างที่ฝนทำความสะอาดห้องเกิดพบล๊อคเก็ตที่หล่นอยู่ซึ่งฝนจำได้แม่นว่าเป็นของฟ้าเพราะจ่ามารุตเคยทำให้ฟ้าเมื่อตอนที่รักกันใหม่ ๆ ฝนบอกว่าฟ้าคงอยากให้ทศช่วย ด้วยความที่เป็นคนที่เชื่อเรื่องผีอยู่แล้วเจอฝนโน้มน้าวแบบนี้ ทศจึงยอมช่วยเหลือ ฝนขอให้ทศกับไปตามสืบที่สน.จึงได้รู้จากผู้กองพีระว่าจ่ามารุตหายไประหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่เมื่อหลายปีก่อน จนบัดนี้ก็ยังไม่พบศพ หนำซ้ำไม่มีใครรู้ว่ามารุตมีภรรยา จึงไม่ได้ส่งข่าวไปบอก ทำให้ฝนมืดแปดด้านเพราะไม่มีเบาะแสอะไรเลย แจ๋นสงสารฝนจึงแอบเล่าเรื่องของฟ้าให้ผู้กองพีระฟังและขอร้องให้ช่วยสืบเรื่องของจ่ามารุตให้ด้วย ผู้กองพีระบอกว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แจ๋นจึงบอกถ้าไม่เชื่อจะพาผู้กองไปท้าพิสูจน์ที่บ้านร้างก็ได้ ผู้กองได้ฟังอย่างนั้นก็ตำหนิแจ๋นหาว่าพวกนักล่าผีตัวดีชอบก่อกวนสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน มันน่าจับเข้าคุกซะให้เข็ด แจ๋นโกรธมากตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับผู้กองพีระทันที เมื่อทศรู้ก็แนะนำฝนบอกว่าน่าจะมอบล๊อคเก็ตให้ผู้กองพีระช่วยสืบหาฟ้ากับจ่ามารุต ฝนจึงขอให้แจ๋นไปพบกับผู้กองพีระอีกครั้ง แม้แจ๋นจะไม่เต็มใจเพราะรู้ดีว่าถ้าเจอกันกับผู้กองพีระต้องมีเรื่องกันอีกแน่ ๆ แต่เมื่อฝนขอร้อง แจ๋นจึงต้องทำเพื่อเพื่อน และก็จริงเมื่อแจ๋นไปหาผู้กองพร้อมล๊อคเก็ตและจดหมายของฟ้า ผู้กองกลับมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระผู้กองบอกส่ง ๆ ว่าจะช่วยแล้วกัน พูดจบก็โยนล๊อคเก็ตและจดหมายเข้าลิ้นชักโดยที่ไม่ดูแม้แต่นิดเดียว ท่าทางกวนประสาทของผู้กองยิ่งทำให้แจ๋นหมั่นไส้ ด้วยความผูกพันใกล้ชิด ทศเผลอวาดรูปของฝนไว้บนโต๊ะทำงาน เพื่อน ๆ ต่างล้อว่าทศหลงผีสาวเอามาก วิกานดา บ.ก.ของโรงพิมพ์เห็นว่าแปลกดี จึงเขียนเรื่องลงในหนังสือ อ้างอิงว่าเป็นเรื่องความรักระหว่างคนกับผี วสันต์ ผู้จัดการ Crocodile Plub น้องชายของวิกานดาได้เห็นเข้าถึงกับขนลุกซู่ เพราะผีสาวในภาพคือ ผู้หญิงคนเดียวกับที่ เสี่ยใหญ่ นักธุรกิจที่มีธุรกิจมากมายทั้ง Crocodile Plub โรงงานเครื่องหนังที่ทำจากหนังจระเข้ แต่มีเบื้องหลังค้ายาเสพติด ได้สั่งให้วสันต์ไปฆ่าฟ้าปิดปาก เพราะเธอคือภรรยาของจ่ามารุต ที่เป็นสายสืบและล่วงรู้ว่าเสี่ยใหญ่กำลังจะขนยาไปต่างประเทศ วสันต์นำเรื่องความเฮี้ยนของผีฟ้าไปบอกกับเสี่ยใหญ่ แต่กลับถูกเสี่ยใหญ่ด่าว่ากลัวไม่เข้าเรื่องขี้ขลาดตาขาว หากผีฟ้าเฮี้ยนจริงคงมาหักคอวสันต์ตั้งแต่วันที่วสันต์ฆ่าปิดปากไปแล้ว เสี่ยใหญ่บอกเป็นลูกน้องเสี่ยใหญ่ห้ามขี้ขลาด วสันต์จำต้องเชื่อเสี่ยใหญ่ทำเป็นไม่สนใจทั้ง ๆ ที่ใจยังเกรง ๆ อยู่ เรื่องราวยิ่งอลหม่าน เมื่อฝนไปที่บ้านร้างแล้วมีคนแอบถ่ายรูปฝนได้ ชาวบ้านต่างฮือฮาคิดว่าเป็นภาพถ่ายติดวิญญาณ ส่งไปลงหนังสือพิมพ์กันยกใหญ่ เจ๊กี เจ้าของห้องเช่าเห็นก็ลมใส่ เข้าใจผิดว่าผีฟ้าตามมาหลอกหลอนเพราะเคยเห็นฝนแว่บ ๆ ที่ห้องทศ ข่าวเลยกระหน่ำถึงความเฮี้ยนของผีฟ้า ส่งผลให้หมอผีและนักล่าผีทุกสารทิศก็แห่กันมาท้าพิสูจน์จนวุ่นวาย รวมทั้ง สัปเหร่อไชโย หมอผีมือฉมังที่เก่งกล้าวิชาอาคม ก็มาร่วมพิสูจน์ด้วยหวังจะเอาน้ำมันพรายจากผีแม่ลูกอ่อน ท่ามกลางการเอาใจช่วยของบรรดาชาวบ้านแถวนั้น โดยเฉพาะม่ายสะอิ้ง แม่ค้าอาหารตามสั่งและกิมลั้ง ลูกสาวของเจ๊กีที่หลงรักทศ ทั้งคู่กะจะเอาน้ำมันพรายของผีฟ้ามาดีดใส่ทศ เผื่อทศจะหันมาสนใจบ้าง ฝนหมั่นไส้ จึงปลอมตัวเป็นผีฟ้ามาให้สะอิ้งและกิมลั้งเห็น สะอิ้งกับกิมลั้งลมใส่ ข่าวลือเรื่องผีฟ้าจึงลุกกระพือขึ้นมาอีกรอบ ประจวบเหมาะกับที่ยามเฝ้าคอนโดดันมาเห็นทศอยู่ในห้องกับฝนสองต่อสอง ยามสติแตกแหกปากลั่นบอกว่าทศมีเมียเป็นผี เรื่องความเฮี้ยนของผีฟ้าบานปลายไปใหญ่โต เพราะมีคนเห็นฝนปรากฏตัวอยู่บ่อย ๆ ฝนคิดไม่ตก ไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร จะเปิดเผยความจริงว่าตัวเองไม่ใช่ผีก็ไม่ได้เพราะยังสืบเรื่องของฟ้าไม่เสร็จ ข่าวการมีเมียผีของทศดังไปทั่ว รวมทั้งภาพของผีฟ้าก็ถูกสื่อต่าง ๆ ตีข่าวกระหน่ำ วสันต์บอกเสี่ยใหญ่ถึงความเฮี้ยนของผีฟ้าอย่างกลัวจัด เสี่ยใหญ่บอกไม่กลัวผีกลัวแต่ว่าเกิดข่าวใหญ่โตขนาดนี้ เรื่องที่ฆ่าผีฟ้าและจ่ามารุตอาจจะไปถึงหูตำรวจ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทุกอย่างคงจบเห่ เสี่ยใหญ่สั่งให้วสันต์สะกดรอยตามทศ จะได้รู้ว่าทศรู้เรื่องของผีฟ้ามากมายแค่ไหน แม้จะกลัวผีฟ้าแต่กลัวลูกปืนเสี่ยมากกว่า วสันต์จำต้องทำตามคำสั่งเสี่ย ผู้กองพีระพอเห็นข่าวผีฟ้าก็เกิดความสนใจ จึงหยิบล๊อคเก็ตที่แจ๋นให้มาดู ผลคือภาพผู้หญิงในล๊อคเก็ตเป็นภาพเดียวกับภาพผู้หญิงที่คนเขาว่าเป็นผีและผู้ชายที่อยู่ในภาพคือจ่ามารุต ผู้กองพีระรีบคว้าจดหมายขึ้นมาอ่าน ซึ่งเมื่อได้อ่านผู้กองพีระก็สั่งให้รื้อคดีที่จ่ามารุตทำเป็นครั้งสุดท้ายมาอ่าน แล้วผู้กองพีระก็ได้พบเบาะแสของนักค้ายาเสพติดที่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของจ่ามารุต และหญิงสาวที่คาดว่าน่าจะเป็นที่มาของผีฟ้าดังคำบอกเล่าในจดหมาย ผู้กองพีระติดต่อแจ๋นอยากจะรู้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่แจ๋นไม่ยอมให้ความร่วมมือเพราะยังหมั่นไส้อยู่ ผู้กองพีระจึงติดต่อทีม "กล้าพิสูจน์" ให้ช่วยทีมกล้าพิสูจน์เต็มใจยิ่งที่จะได้ค้นหาความจริง แต่ทุกครั้งที่เกือบจะได้เรื่องได้ราว ทีมกล้าพิสูจน์ก็ทำเสียเรื่องทุกครั้ง โดยเฉพาะเมื่อครั้งที่ผู้กองพีระได้เบาะแสเกี่ยวกับเสี่ยใหญ่ว่าอาจจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังนักค้ายาเสพติด ผู้กองพีระได้วางแผนให้ทีมงานบุกไปยังฟาร์มจระเข้ของเสี่ยใหญ่ เพื่อทำสกู๊ปช่วงกล้าดี ที่เลี้ยงจระเข้เป็นสัตว์เลี้ยง และให้บันทึกภาพมาให้หมด เผื่อจะได้อะไรเพิ่มเติม เช่นการซุกซ่อนยาเสพติดในเครื่องหนังจระเข้ แต่ทีมกล้าพิสูจน์กลับไปสาละวนกับการสัมภาษณ์เสี่ยใหญ่ เพราะเสี่ยใหญ่อ้างว่าเคยเจอผีจระเข้ที่น่าเกลียดน่ากลัว ผลปรากฏรายการวันนั้นไม่เป็นดังที่คาดหวัง และผู้กองพีระก็รู้ว่าเสี่ยใหญ่รู้ทันและวางแผนตลบหลังทีมงาน ด้วยการหลอกเรื่องผีจระเข้ไม่มีอะไรคืบหน้า ฝนตัดสินใจที่จะไปพบผู้กองพีระโดยแอบไปพบในตอนกลางคืน ผู้กองพีระเห็นหน้าฝนครั้งแรกก็ตกใจคิดว่าเป็นผี ฝนจึงเล่าให้ฟังว่าตอนนี้ฝนกำลังทำตัวเป็นผีเพื่อสืบหาความจริง แต่ไม่สะดวกที่จะมาในตอนกลางวันจึงต้องขอให้เป็นหน้าที่ของแจ๋นแทน แจ๋นจึงจำต้องพบกับผู้กองพีระ ทั้งหมดจำต้องร่วมมือกันเพื่อค้นหาความจริง โดยเฉพาะในแง่ที่ว่าหากเสี่ยใหญ่เป็นผู้สั่งฆ่าจ่ามารุตกับฟ้าจริง แล้วศพไปอยู่ที่ไหนเพราะที่ผ่านมาไม่เคยพบศพของจ่ามารุตกับฟ้าเลย ส่วนทีมกล้าพิสูจน์นำโดยทศก็อยากจะแก้ตัว จึงแอบถ่ายบริเวณบ้านของเสี่ยใหญ่ว่าจะเป็นแหล่งซ่องสุมค้ายาหรือไม่ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะถูกยามไล่ออกมาเสียก่อน ฝนกลับไปที่บ้านร้างอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม ชาวบ้านเห็นฝนต่างลือกระหน่ำถึงความเฮี้ยนของผีสาว วสันต์ตามมาที่บ้านร้างเห็นฝนก็ตกใจ คิดว่าเป็นผีจริง ๆ ฝนสืบจนรู้ว่าวสันต์คือน้องชายของวิกานดา แต่ไม่รู้ว่าวสันต์มาเกี่ยวข้องกับฟ้าได้อย่างไร ? ฝนบอกให้ทศช่วยสืบให้ จังหวะเดียวกันกับที่เสี่ยใหญ่ส่งพชรินทร์ สาวสวยเซ็กซี่หนึ่งในอนุภรรยาลับ ๆ มาตีสนิทเพื่อสืบความเป็นไปของทศว่ารู้เรื่องของผีฟ้าและมารุตแค่ไหน พชรินทร์ขอข้อมูลของทศจากวสันต์และเข้าไปหาทศในฐานะแฟนหนังสือที่คลั่งไคล้ผลงานของทศเป็นอย่างมาก แถมสะสมผลงานของทศทุกเล่ม เกิดมาไม่เคยมีแฟนคลับ ทศจึงยังไม่ทันเฉลียวใจนอกจากยอมเป็นมิตรที่ดีกับพชรินทร์ ท่ามกลางความไม่พอใจของฝนเพราะชักทะแม่ง ๆ กับท่าทีของพชรินทร์เพราะจากท่วงท่าลีลาแบบนี้ไม่น่าจะมาสนใจทศในฐานะไหน ๆ ฝนจึงเตือนทศแต่ทศบอกว่าฝนคิดมาก ฝนบอกไม่มากผู้หญิงกับผู้หญิงดูกันออก พชรินทร์บอกทศว่าสนใจเรื่องของผีฟ้ามาก อยากไปดูผีฟ้าที่บ้านร้าง ทศปฏิเสธแต่ก็ถูกพชรินทร์รบเร้าบอกว่าอยากไปเห็นกับตา เห็นท่าทางของพชรินทร์สนใจจริงๆและดูทีท่าไม่มีพิษสงอะไร ทศจึงตัดสินใจพาพชรินทร์ไป หารู้ไม่ว่าพชรินทร์บอกเสี่ยใหญ่ เสี่ยใหญ่จึงให้วสันต์แอบตามไป วสันต์กลัวก็กลัวแต่ขัดเสี่ยใหญ่ไม่ได้จึงต้องตามไป ที่บ้านร้าง พชรินทร์ทำท่าทางกลัวจนน่าสงสาร จนทศเกือบจะเผลอบอกว่าผีฟ้าไม่มีจริงหรอก ก็พอดีกับผู้กองพีระพร้อมกับกลุ่มกล้าพิสูจน์มาบุกบ้านร้างเหมือนกันเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พชรินทร์จึงได้รู้ว่าขณะนี้ตำรวจกำลังสืบเรื่องของผีฟ้าจริง ๆ พชรินทร์เอาเรื่องไปบอกกับเสี่ยใหญ่ เหตุการณ์ครั้งนี้ยิ่งทำให้เสี่ยใหญ่มั่นใจว่าผีฟ้าไม่มีตัวตนจริง ๆ มันต้องเป็นแผนของใครสักคนที่ปลอมตัวเป็นผีฟ้าเพื่อค้นหาความจริงและล่อเสือออกจากถ้ำ เสี่ยใหญ่ให้พชรินทร์ประกบตามทศไม่ห่าง พร้อมกับให้วสันต์ช่วยอีกแรง แม้จะกลัวแสนกลัวเพราะเชื่อเรื่องผี แต่วสันต์ก็ขัดเสี่ยใหญ่ไม่ได้เช่นเคย พชรินทร์ตามมาประกบทศ แรก ๆ พชรินทร์ทำตามคำสั่งของเสี่ยใหญ่ แต่เมื่อคุ้นเคยกันนานเข้าพชรินทร์กลับเห็นถึงความน่ารัก มองโลกในแง่ดีมีน้ำใจของทศ พชรินทร์แอบชอบทศขึ้นมาเงียบ ๆ ฝนแอบเห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ก็น้อยใจคิดว่าทศกับพชรินทร์คงรักกัน ฝนเริ่มที่จะตีตัวออกห่างด้วยการสืบเรื่องของผีฟ้าเอง ฝนเข้าทางแจ๋นให้แจ๋นขอข้อมูลจากผู้กองพีระถึงบุคคลที่ต้องสงสัย พีระให้ข้อมูลของวสันต์เพราะวสันต์เป็นคนสนิทของเสี่ยใหญ่ และวสันต์แสดงพิรุธระหว่างที่พีระสอบสวน ฝนสืบดูจนรู้ว่าวสันต์จะไปที่บ้านร้างอีกทีเพื่อเก็บหลักฐานที่อาจจะหลงเหลือ จึงหาทางปลอมเป็นผีฟ้าหลอกวสันต์ วสันต์กลัวจนเผลอบอกความจริงหมดทุกอย่างว่าที่ต้องฆ่าผีฟ้าเพราะผีฟ้าเป็นเมียของจ่ามารุต จึงต้องฆ่าฟ้าปิดปากเพราะบางทีจ่ามารุตอาจจะเผลอบอกอะไรกับฟ้า ฝนฟังด้วยความเจ็บปวด คิดทันทีว่าจะต้องเอาคนชั่วมาลงโทษให้ได้ ฝนบอกวสันต์ว่าจะตามจองล้างจองผลาญและจะฆ่าวสันต์ให้เหมือนกับที่วสันต์ฆ่าผีฟ้า วสันต์บอกว่าคนบงการไม่ใช่เขา เขาได้รับคำสั่งมาอีกที ฝนถามว่าใครบงการ จังหวะที่วสันต์จะตอบ พชรินทร์ก็ขับรถเข้ามาที่บ้านร้าง ไฟหน้ารถสาดแสงจ้าจนฝนต้องหลบไป วสันต์กลับไปหาเสี่ยใหญ่ด้วยความกลัวสุดขีด บอกว่าถูกผีฟ้าตามมาหลอกหลอนและขู่อาฆาตว่าจะฆ่า วสันต์ขอถอนตัวจากเรื่องนี้ เสี่ยใหญ่บอกว่าให้เลือกเอาว่าจะให้ผีฟ้าฆ่าหรือจะกินลูกปืนจากเสี่ย วสันต์ฟุ้งซ่าน คิดไม่ตกว่าจะตัดสินใจปัญหาอย่างไร ฝนนำเรื่องทีได้รู้มาไปปรึกษาแจ๋น แจ๋นบอกเรื่องใหญ่ขนาดนี้ต้องปรึกษาพีระ แต่ขั้นแรกคงต้องดึงทศออกมาจากพชรินทร์ก่อนเพราะพชรินทร์ท่าทางจะเป็นนางนกต่อ ประจวบเหมาะกับที่พชรินทร์แอบมาที่ห้องทศและแอบเห็นฝนทะเลาะกับทศเพราะฝนรู้ว่า พชรินทร์ไม่ใช่แฟนคลับของทศเพราะเคยเห็นพชรินทร์ไปหาวสันต์ พชรินทร์เข้ามาตีสนิทกับทศเพราะต้องการสืบเรื่องบางอย่าง ทศไม่เชื่อ ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรง ฝนบอกทศว่าฝนไม่ไว้ใจทศ หากทศยังทำตัวสนิทสนมกับพชรินทร์ ฝนกลัวว่าความลับจะรั่วไหล ต่อไปฝนจะค้นหาความจริงเอง ฝนต้องรู้ให้ได้ว่าใครฆ่าฟ้ากับจ่ามารุตและเอาศพไปทิ้งไว้ที่ไหน เมื่อเห็นฝนทะเลาะกับทศ พัชรินทร์ก็รู้ทันที่ว่าฝนไม่ใช่ผีแต่เป็นคนที่เสี่ยใหญ่กำลังต้องการตัวอยู่ พชรินทร์จึงถ่ายรูปฝนมาให้เสี่ยใหญ่ เสี่ยใหญ่จึงให้วสันต์ซ้อนแผนล่อตัวฝนออกมาให้ได้ เมื่อรู้ว่าฝนไม่ใช่ผีวสันต์ก็ไม่กลัว วสันต์จึงทำที่ไปหาวิกานดาที่โรงพิมพ์เปรย ๆ ให้ทศได้ยินว่าจะไปทำบุญุทิศส่วนกุศลให้ผีฟ้าที่บ้านร้างเพราะผีฟ้าเฮี้ยนเหลือเกิน วิกานดาถามว่าทำไมวสันต์ต้องทำบุญให้ผีฟ้าด้วย วสันต์บอกทำบุญให้ผีเร่ร่อนน่าจะดีเพราะช่วงนี้ดวงไม่ค่อยดี ทศจึงมาบอกฝน ฝนบอกจะไปให้วสันต์เห็นอีกครั้งเพื่อเอาคำตอบให้ได้ว่าใครเป็นคนบงการ ทศห้ามฝนก็ไม่เชื่อ ทศจึงบอกผู้กองพีระกับแจ๋น ผู้กองพีระกับทศและแจ๋นจึงตามไปฝนที่บ้านร้าง ที่นั่นเสี่ยใหญ่ พชรินทร์ วสันต์รอฝนอยู่เมื่อฝนปรากฏตัวจึงถูกเสี่ยใหญ่จับไป เมื่อทศกับผู้กองพีระ และแจ๋นตามไปก็ไม่เห็นฝนแล้ว บังเอิญทีมกล้าพิสูจน์ส่งข่าวมา ว่าแอบถ่ายภาพภายในบ้านของเสี่ยใหญ่ได้ แต่ไม่พบว่าเสี่ยใหญ่จะใช้เป็นแหล่งซ่องสุมอะไรนอกจากพบแต่เพียงภาพที่เสี่ยใหญ่โยนเนื้อสดให้จระเข้กิน ได้ยินดังนั้นทศก็รู้ว่าศพของทุกคนหายไปไหน ทั้งหมดตามไปที่บ้านเสี่ยใหญ่ทันทีเพราะกลัวฝนจะถูกฆ่าปิดปาก ที่บ้านของเสี่ยใหญ่ เสี่ยใหญ่จับฝนไปที่บ่อจระเข้ บอกแส่ดีนักหากอยากรู้ว่าจ่ามารุตกับฟ้าอยู่ที่ไหนก็ลงไปหาในบ่อจระเข้แล้วกัน จังหวะที่เสี่ยใหญ่จะจับฝนโยนลงบ่อจระเข้ ทศ ผู้กองพีระ แจ๋นและทีมงานกล้าพิสูจน์ก็บุกมาช่วยฝนได้ทันท่วงที เสี่ยใหญ่และวสันต์ถูกจับจากคำสารภาพของตัวเอง ส่วนพชรินทร์ถูกจับฐานเป็นสายให้คนร้ายและลวงคนมาฆ่า คดีทุกอย่างคลี่คลาย ฝนฟังด้วยความเศร้าโศกเสียใจ แม้คนที่กระทำผิดจะถูกลงโทษแต่การสูญเสียคนที่รักมันยิ่งใหญ่กว่านั้น เมื่อคดีคลี่คลาย ทศ ฝน พ่อเก่งแม่แก้ว ผู้กองพีระ แจ๋น และชาวบ้านแถวนั้นทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับฟ้าและจ่ามารุต ขอให้ไปเกิดในชาติภพใหม่ที่ดีกว่าเดิม ทศปรับความเข้าใจและขอฝนแต่งงาน แต่พอชาวบ้านรู้ข่าวต่างก็ลือกันอีกว่าประเดี๋ยวผีฟ้าก็มาเข้าห้องหอด้วย เพราะแต่งงานกับแฝดของผี ทศน่าจะเปลี่ยนใจ ทศยิ้มร่า บอกยังไงก็จะแต่งงานแน่นอนหากฝนตอบตกลง เพราะเจ้าสาวของผมคนนี้ยังไงก็ไม่ใช่ผี